สนับสนุนบทความคุณภาพโดย    lucaclub88

     เว็ป   บาคาร่าออนไลน์    ที่ดีที่สุด

      แตงหนู

เป็นไม้เถาเลื้อยล้มลุก ชนิดที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยมักพบการเจริญเติบโตอยู่ตามป่าดิบชื้น หรือป่าผลัดใบทั่วไปของทุกภาค ส่วนอีกชนิดหนึ่งพบมีการกระจายพันธุ์อยู่ในแถบแอฟริกาเหนือ และทางตอนใต้ของยุโรป เป็นพืชที่ชาวบ้านในท้องถิ่นนิยมนำส่วนของต้นและยอดอ่อนมารับประทานเป็นผักสด ซึ่งมีคุณค่าทางยาสมุนไพรมากมาย ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำต้น แตงหนู มีลักษณะของลำต้นเป็นเถาสี่เหลี่ยมชุ่มน้ำ มีขนสั้นๆ ปกคลุมอยู่ทั่วไป เป็นไม้เนื้ออ่อนที่มีมือเกาะอาศัยไปตามต้นไม้อื่นได้ยาวประมาณ 3-24 ซม. ใบ

มีลักษณะคล้ายกับใบตำลึง ขอบใบหยักประมาณ 3-5 แฉก ปลายใบเป็นติ่งแหลม ออกเป็นใบเดี่ยวๆ เรียงเวียนสลับแบบตรงกันข้าม แผ่นใบมีสีเขียวและมีขนสั้นๆ ปกคลุมอยู่ทั่ว เมื่อลองจับดูจะรู้สึกสากๆ มือ ดอก มีลักษณะเป็นดอกสีเหลืองขนาดเล็ก ออกเป็นช่อกระจุกบริเวณซอกใบที่ปลายยอด โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดคล้ายรูประฆัง ส่วนปลายกลีบดอกแยกออกเป็น 3-5 แฉก ผล มีลักษณะเป็นรูปทรงกลมขนาดเล็ก มีความยาวของผลประมาณ 1 ซม. ผลอ่อนมีสีเขียวเป็นลายคล้ายผลแตงโม และกลายเป็นสีเหลืองจนถึงสีแดงเมื่อแก่หรือสุก

ภายในผลจะมีน้ำเป็นยางเหนียวๆ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน และเมล็ดขนาดเล็กอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับพันธุ์ของต่างประเทศจะมีขนาดผลที่โตกว่าประมาณ 1 เท่า การขยายพันธุ์ สามารถทำได้ด้วยการใช้เมล็ด สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ และมีความชื้นที่พอเหมาะ ต้องการได้รับแสงแดดแบบเต็มวัน ประโยชน์และสรรพคุณทางยา ราก-ใช้ปรุงเป็นยาแก้ลม ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ ใช้รักษาโรคเหงือกหรือคุดทะราด แก้ปวด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ยอดอ่อน-นิยมนำมารับประทานเป็นผักสด ต้น-ใช้ปรุงเป็นยาขับเสมหะ ใบ-ใช้ปรุงเป็นยาแก้ไข้ที่มีอาการหนาวสั่น ดอก-ใช้ปรุงเป็นยาแก้โลหิตเป็นพิษ ผล-ใช้เป็นยาแก้ไข้ตัวร้อน เป็นยาระบายอย่างรุนแรง

     สนับสนุนบทความคุณภาพโดย    lucaclub88

     เว็ป   บาคาร่าออนไลน์    ที่ดีที่สุด

Link: คลิ๊กที่นี่