องุ่นมีสาร Resveratrol

สารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยต่อสู้กับโรคเจมส์ Ross / Stocksyพวกเขามีคุณค่าทางโภชนาการหวานเหมือนขนมและมีความสำคัญต่อชีวิตที่ดีนับตั้งแต่รุ่งอรุณแห่งอารยธรรม เสิร์ฟในพวงสดในนักเก็ตที่เป็นมิตรกับขนมขบเคี้ยวแห้งหรือด้วยความสำคัญของพวกเขาบีบและหมักลงในน้ำอมฤตที่ทำให้มึนเมาองุ่นใช้เวลาในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความอยากอาหารของเรา อ่านเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกเขาองุ่นคืออะไรและมาจากไหนพืชองุ่นองุ่นที่มีผลไม้จากสกุล Vitis ของตระกูล Vitaceae อยู่กับเรามานานแล้วที่พบฟอสซิลใบลำต้นและเมล็ดในเขตซีกโลกเหนือจากยุค Neogene และ Paleogene ซึ่งครอบคลุมระยะเวลายาวนาน ระหว่าง 2.6 ล้านถึง 65 ล้านปีก่อน ผลไม้ที่มีสีเหมือนโลกฉ่ำฉ่ำและผลไม้รสหวานคือสิ่งที่เราเรียกว่าองุ่นไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงินสีม่วงสีแดงสีแดงสีชมพูสีเขียวหรือสีเหลืองอำพันการเพาะปลูกองุ่นเริ่มต้นที่ 6,500 บาท ขับเคลื่อนโดยการผลิตไวน์ - การหมักน้ำองุ่นลงในเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ - 4,000 BCC การเพาะปลูกได้แพร่กระจายจากยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตกไปสู่ภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์หลังจากที่การฝึกปฏิบัติย้ายไปทางตะวันตกสู่ยุโรปและตะวันออกสู่ประเทศจีนไวน์องุ่นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวกรีกและโรมันโบราณที่พวกเขานมัสการเทพเจ้าแห่งไวน์และความสุขซึ่งพวกเขาเรียกว่า Dionysus และ Bacchus

สนับสนุนโดย เว็บ คาสิโน ออนไลน์ ที่ดีที่สุด

หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันบทบาทของไวน์ในกลุ่มคริสเตียนช่วยปลูกองุ่นเจริญรุ่งเรืองในยุโรป การปฏิบัติข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกกับการล่าอาณานิคมของยุโรปในทวีปยุโรป วันนี้อิตาลีฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตองุ่นชั้นนำของโลก ข้อมูลโภชนาการองุ่น: แคลอรี่คาร์โบไฮเดรตและอื่น ๆองุ่นเป็นแหล่งพลังงานโภชนาการ พวกเขาจะเต็มไปด้วยวิตามินซีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพที่มีบทบาทสำคัญในสุขภาพของระบบภูมิคุ้มกันการพัฒนาเนื้อเยื่อเกี่ยวพันและการรักษาบาดแผล เป็นแหล่งของวิตามินเคซึ่งช่วยในเรื่องการแข็งตัวของเลือดและบำรุงกระดูก เช่นเดียวกับโพแทสเซียมซึ่งเป็นหน้าที่ของไตและหัวใจที่สำคัญการหดตัวของกล้ามเนื้อและการส่งสัญญาณประสาท องุ่นยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายจากความเครียดออกซิเดชันกลไกที่เชื่อมโยงกับโรคมะเร็งโรคหัวใจและโรคอัลไซเมอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองุ่นที่เข้มกว่าเช่นพันธุ์คองคอร์ดและสีม่วงมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามบทความที่ตีพิมพ์ในเดือนธันวาคม 2013 ในวารสารสารต้านอนุมูลอิสระ  องุ่นเป็นส่วนเสริมที่สมบูรณ์แบบสำหรับการบริโภคผลไม้ที่แนะนำต่อวันของคุณ 1.5 ถึง 2 ถ้วยตามแนวทาง MyPlate ของกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา

จากข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร (USDA)

สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลโภชนาการสำหรับองุ่นแดงหรือเขียว 1 ถ้วยหรือ 151 กรัมg

แคลอรี่: 104

โปรตีน: 1.09g (มูลค่ารายวัน 2.18 เปอร์เซ็นต์หรือ DV)

ไขมันทั้งหมด: 0.24g

คาร์โบไฮเดรต: 27.33 กรัม

ใยอาหารทั้งหมด: 1.4g (5.6 เปอร์เซ็นต์ DV)

น้ำตาล: 23.37g

โพแทสเซียม: 288 มิลลิกรัม (มก.) (6.13 เปอร์เซ็นต์ DV)

วิตามินซี: 4.8 มก. (8 เปอร์เซ็นต์ DV)

วิตามินเค: 22 ไมโครกรัม (27.5 เปอร์เซ็นต์ DV)